ขับเคลื่อนโดย Blogger.

wellcome

wellcome
RSS

Learn Tenses

Tenses
กาล
                Tense คือ รูปแบบของคำกริยาที่ใช้บรรยายเหตุการณ์และการกระทำที่เกิดขึ้นในช่วงต่างๆ ของการกระทำนั้น
การจะเรียนรู้ไวยากรณ์อังกฤษ (English Grammar) ให้เก่งนั้น จะต้องเข้าใจเรื่องของกาล (Tense) ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของเวลาด้วย เพื่อที่จะได้รู้ว่าการกระทำที่กล่าวขึ้นนั้นเกิดขึ้นเมื่อใด จะได้นำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง ดังนี้
Present Tenses 4 รูป
Present Simple Tense                                       ประธาน + V1 (s, es)
Present Continuous Tense                               ประธาน + is, am, are + V-ing      
Present Perfect Tense                                       ประธาน + has, have + V3
Present Perfect Continuous Tense                 ประธาน + has, have + been + V-ing
Past Tenses 4 รูป
                Past Simple Tense                                             ประธาน + V2
                Past Continuous Tense                                     ประธาน + was, were + V-ing
                Past Perfect Tense                                             ประธาน + had + V3
                Past Perfect Continuous Tense                       ประธาน + had + been + V-ing
Future Tenses 4 รูป
                Future Simple Tense                                         ประธาน + will, shall + V1
                Future Continuous Tense                                 ประธาน + will, shall + be + V-ing
                Future Perfect Tense                                         ประธาน + will, shall + have + V3
                Future Perfect Continuous Tense                  ประธาน + will, shall + have + been + V-ing


Present Simple Tense
โครงสร้าง          
ประธาน (Subject) + กริยา (Verb) ช่องที่ 1

รูปแบบ
บอกเล่า                                 คำถาม                                    ปฏิเสธ
I
กริยา
ไม่มี
s, es

Do
I
กริยา
ไม่มี
s, es ?



I
do not (don’t)
กริยา
ไม่มี
e, es
You
you
You
We
we
We
They
they
They
He
กริยามี
หรือ es
Does
he
He
does not
(doesn’t)
She
She
She
It
it
It

การใช้
Ø เมื่อเป็นเหตุการณ์หรือการกระทำที่เป็นจริงโดยทั่วไป
Ø เมื่อเป็นการบรรยายเหตุการณ์ หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในขณะที่พูด
Ø เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นเป็นกิจวัตรทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคต
Ø เป็นการกระทำที่กำหนดไว้แน่นอนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
หมายเหตุ
Ø ประธานที่เป็นเอกพจน์กริยาต้องเติม s, es
Ø ประโยคบอกเล่าจะใช้กริยาช่วยในกรณีต้องการเน้น ปกติจะไม่ใช้
Ø สำหรับ Verb to be ที่เป็นกริยาหลัก โดยปกติจะไม่ใช้กริยาช่วย ไม่ว่าในประโยคคำถามหรือประโยคปฏิเสธ



Example
กริยาแท้ Verb to be (is, am, are)
is am are ที่ยกตัวอย่างนี้ เป็นกริยาแท้ (เพราะมีตัวเดียวในประโยค ไม่ได้ไปเสริมกับกริยาตัวอื่น)

บอกเล่า
She is a doctor. หล่อนเป็นหมอ
ปฏิเสธ
She is not a doctor. หรือ She isn’t a doctor. หล่อนไม่เป็นหมอ
คำถาม
Is she a doctor?  หล่อนเป็นหมอใช่ไหม
คำตอบ
Yes, she is. / No, she isn’t. หรือ No, she is not. ใช่ / ไม่ใช่


บอกเล่า
I am a student. ฉันเป็นนักเรียน
ปฏิเสธ
I am not a student..หรือ I’m not a student. ฉันไม่เป็นนักเรียน
คำถาม
Are you a student? ฉันเป็นนักเรียนใช่ไหม
คำตอบ
Yes, I am. / No, I’m not. หรือ No, I am not. ใช่ ไม่ใช่


บอกเล่า
You are a tiger. คุณเป็นเสือ
ปฏิเสธ
You are not a tiger. หรือ You aren’t a tiger. คุณไม่เป็นเสือ
คำถาม
Am I a tiger? ฉันเป็นเสือใช่ไหม
คำตอบ
Yes, you are. / No, you are not. หรือ No, you aren’t. ใช่/ ไม่ใช่




กริยาแท้ Verb to have (Have, Has)
กริยาตัวนี้ ถ้าเป็นกริยาแท้ในประโยค ไม่ควรเอานำหน้าเพื่อทำเป็นประโยคคำถาม ถึงแม้จะถูกต้องตามไวยากรณ์ แต่ก็ไม่นิยมใช้กันแล้วการสร้างประโยคคำถามและปฏิเสธให้เอา Do กับ Does มาใช้



บอกเล่า
He has a car. เขามีรถ
ปฏิเสธ
He does not have a car. หรือ He doesn’t have a car. เขาไม่มีรถ
คำถาม
Does he have a car? เขามีรถใช่ไหม
คำตอบ
Yes, he does. / No, he does not. หรือ No, he doesn’t. ใช่/ ไม่ใช่



บอกเล่า
They have a cat. พวกเขามีแมว
ปฏิเสธ
They do not have a cat. หรือ They don’t have a cat. พวกเขาไม่มีแมว
คำถาม
Do they have a car? พวกเขามีแมวใช่ไหม
คำตอบ
Yes, they do. / No, they do not. หรือ No, they don’t. ใช่/ ไม่ใช่




กริยาช่วย can, should, must
                               
บอกเล่า
A dog can swim. หมาสามารถว่ายน้ำได้
ปฏิเสธ
A dog cannot swim. หรือ A dog can’t swim. หมาไม่สามารถว่ายน้ำได้
คำถาม
Can a dog swim? หมาว่ายน้ำได้ใช่ไหม
คำตอบ
Yes, a dog can. / No, a dog cannot. หรือ No, a dog can’t. ใช่/ ไม่ใช่
                                                               
บอกเล่า
Somchai should go to school now. สมชายควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้
ปฏิเสธ
Somchai should not go to school now. หรือ Somchai shouldn’t go to school now.
สมชายไม่ควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้
คำถาม
Should Somchai go to school now? สมชายควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้ใช่ไหม
คำตอบ
Yes, Somchai should. / No, Somchai should not. หรือ No,Somchai shouldn’t. ใช่/ ไม่ใช่


บอกเล่า
She must go. หล่อนต้องไป
ปฏิเสธ
She must not go. หรือ She mustn’t go. หล่อนต้องไม่ไป
คำถาม
Must she go? หล่อนต้องไปใช่ไหม
คำตอบ
Yes, She must. / No, she must not. หรือ No, she mustn’t. ใช่/ ไม่ใช่



ถ้าไม่มีกริยาช่วยในประโยคให้เอา Do กับ Does มาใช้ในประโยคคำถาม
Do +       ประธานพหูพจน์                Does +   ประธานเอกพจน์

บอกเล่า
I eat a banana. ฉันกินกล้วย
ปฏิเสธ
 I do not eat a banana. หรือ I don’t eat a banana. ฉันกินกล้วย
คำถาม
Do I eat a banana? ฉันกินกล้วย
คำตอบ
Yes, I do. / No, I do not. หรือ No,I don’t. ใช่/ ไม่ใช่

บอกเล่า
They go to school by bus. พวกเขาไปโรงเรียนโดยรถบัส
ปฏิเสธ
They do not go to school by bus. หรือ They don’t go to school by bus. พวกเขาไม่ไปโรงเรียนโดยรถบัส
คำถาม
Do they go to school by bus? พวกเขาไปโรงเรียนรถบัสใช่ไหม
คำตอบ
Yes, they do. / No, they do not. หรือ No,they don’t. ใช่/ ไม่ใช่

บอกเล่า
He goes to school. เขาไปโรงเรียน
ปฏิเสธ
He does not go to school. หรือ He doesn’t go to school.
เขาไม่ไปโรงเรียน
คำถาม
Does he go to school? เขาไปโรงเรียนใช่ไหม
คำตอบ
Yes, he do. / No, he does not. หรือ No,he doesn’t. ใช่/ ไม่ใช่



คำบอกเวลาแสดงการใช้ Present simple tense
คำเดียว
กลุ่มคำ
Always
Often
Usually
Frequently
Generally, normally
Sometimes
Occasionally
Nowadays
Rarely
Hardly
seldom
เสมอ
บ่อยๆ
มักจะ
บ่อยๆ
โดยทั่วไป
บางครั้ง
บางคราว
ทุกวันนี้
นานๆ ครั้ง
แทบจะไม่
Every day (week, month, year)


One a week = สัปดาห์ละครั้ง




Twice a day = วันละ 2 ครั้ง
On Sundays = ทุกวันอาทิตย์
(on + วัน + s = ทุกวัน.......)



หลักการใช้ Present simple tense


1.             บรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ กิจวัตร
§  I usually get up at 6.00 a.m.                          
ปกติฉันตื่นนอนตอน 6 โมงเช้า
§  Students sometimes go to class late.   
บางครั้งนักเรียนมาเรียนสาย
§  Niti plays tennis every weekend.                        
นิติเล่นเทนนิสทุกวันหยุด
2.             บรรยายเหตุการณ์ที่เป็นจริงตลอดกาล
§  The sun rises in the east and sets in the west.
3.             บรรยายความสามารถ ข้อมูลที่เป็นจริงในปัจจุบัน และตารางเวลา
§  My father works as a vice-president of that company.
พ่อของฉันเป็นรองประธานบริษัท (บอกข้อมูล)
§  My daughter plays the piano very well.
ลูกสาวของฉันเล่นเปียโนเก่งมาก (บอกความสามารถ)
§  My family lives near the river.
ครอบครัวของฉันอาศัยอยู่ริมแม่น้ำ (บอกข้อมูล)
§  The last train leaves at midnight.
รถไฟเที่ยวสุดท้ายออกเวลาเที่ยงคืน (บอกตารางเวลา)


ใช้ Present simple tense หลังคำเชื่อมเหล่านี้ เพื่อบรรยายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
When +
Present simple,
Future simple
When
As soon as
After
If/Unless
I see him,
I’ll phone you.

Future simple
Until +
Present simple
I’ll wait
Until
I see him.

เช่น       
§  Malee will call you as soonas she arrives.
มาลีจะโทรหาคุณทันที่ที่เธอมาถึง
§  I will stay home if it rains.
ฉันจะอยู่บ้านถ้าฝนตก



การสร้างคำถามโดยใช้ Wh-Question
(Who, What, Where, When, Why, How) ทำได้โดยเอาคำเหล่านี้นำหน้าประโยคคำถามด้านบน แต่ต้องตัดคำที่จะเป็นคำตอบออกด้วย เช่น

Is she a doctor? หล่อนเป็นหมอใช่ไหม
  • Who is she?  หล่อนเป็นใคร                           (ตัดหมอออก เพราะต้องการคำตอบเป็นบุคคล)
  • She is a doctor.  หล่อนเป็นหมอ

Do they have a car? พวกเขามีรถใช่ไหม
  • What do they have?  พวกเขามีอะไร            (ตัดรถออกเพราะต้องการคำตอบสิ่งของ)
  • They have a car. พวกเขามีรถ

Does he go to school? เขาไปโรงเรียนใช่ไหม
  • Where does he go? พวกเขาไปที่ไหน           (ตัดโรงเรียนออก เพราะต้องการคำตอบสถานที่)
  • He goes to school. เขาไปโรงเรียน


Should Somchai go to school now? สมชายควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้ใช่ไหม
  •  When should Somchai go to school? สมชายควรจะไปโรงเรียนเมื่อไหร่
(ตัดเดี๋ยวนี้ เพราะต้องการคำตอบที่เป็นเวลา)
  • Shomchai should go to school now. สมชายควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้


Should Somchai go to school now? สมชายควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้ใช่ไหม
  • Why should Somchai go to school now? ทำไมสมชายควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้  (ไม่ตัดอะไรเลย เพราะคำตอบไม่ได้อยู่ในประโยค)
  • Because he will be late. เพราะว่า เขาจะไปสาย




Present Continuous Tense
โครงสร้าง

ประธาน (Subject) + is, am, are+ กริยา (Verb) ช่องที่ 1 เติม ing

รูปแบบ
     บอกเล่า                                คำถาม                                             ปฏิเสธ
I am
V.ing

Am
I
กริยา
ไม่มี
s, es ?



I am not

He
Is
he
He
She is not
It
V.ing
She is
she
It
it
We
Are
we
We
You are not
They

You are
she
They
they

การใช้
·       เมื่อเป็นเหตุการณ์หรือการกระทำ ที่กำลังดำเนินอยู่อาจจะมี Adverb ในรูปคำหรือกลุ่มคำปรากฏอยู่ด้วย
·       ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยมีคำที่บ่งบอกอนาคตปรากฏอยู่
·       ใช้กับการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต ปัจจุบันและต่อไปในอนาคต
·       ใช้กับการกระทำที่เกิดขึ้นซ้ำซาก
หมายเหตุ
·       ปกติถ้าเราใช้ He always does something.            (เขาทำอย่างนั้นทุกครั้ง)
            แต่ถ้าใช้ He is always doing something.      (เขาทำอย่างนั้นบ่อยแต่ไม่ทุกครั้ง)



















































































































































































































































































































































































































































































  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS
Read User's Comments0

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น